PM 2.5 สะสมในพื้นที่กรุงเทพฯ สูงขึ้นจนกระทบสุขภาพ

PM 2.5 กรมอุตุนิยมวิทยา ชี้สาเหตุหลักที่ทำให้ฝุ่น PM2.5 สะสมในพื้นที่กทม. จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน

วันที่ 11 ธันวาคม 2566 นายธนสิทธิ์ เอี่ยมนันท์ชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาและโฆษกกรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสถานการณ์ต่อศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานระดับฝุ่น P M 2 . 5 เกินมาตรฐาน 55 โซน เข้าเกณฑ์สีส้ม . เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน นี่คือสาเหตุหลักที่อยู่เบื้องหลังปริมาณฝุ่น PM 2 .5 ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ค่าที่เกินเกณฑ์ปกติจะอยู่ที่ระดับสีส้ม

เนื่องจากในช่วงวันที่ 9-18 ธันวาคม มวลอากาศเย็นปกคลุมประเทศไทยตอนบน ซึ่งรวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑลด้วย มีกำลังอ่อนลง ประกอบกับลมตะวันออกมีกำลังอ่อน ทำให้มวลอากาศในเขตกรุงเทพมหานครไม่เคลื่อนที่ ไม่ลอยตัว และมีอัตราการระบายอากาศต่ำ

ในขณะที่สาเหตุหรือที่มาของฝุ่น PM 2. 5 ในเขตกรุงเทพฯ ก็มีปริมาณเท่ากันเสมอ ทำให้เกิดการสะสมของฝุ่นละอองในพื้นที่มากขึ้น โดยข้อมูลจากกองบริการสภาพอากาศดิจิทัลของศูนย์โอโซนและรังสี เน้นย้ำว่าการระบายอากาศในเขตกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 9 ถึง 17 ธันวาคม 2566 ค่อนข้างแย่ ระดับความเข้มข้นของฝุ่นมีแนวโน้มที่จะคงที่และสะสม อัตราการระบายอากาศรายชั่วโมงในระหว่างวันน้อยกว่า 2,000 ตร.ม. ต่อวินาที ระหว่างเวลา 19.00 น. และ 09.00 น. ของวันถัดไป โดยมีค่าสูงสุดประมาณ 5,000 ตารางเมตรต่อวินาที ระหว่างเวลา 13.00 น. และ 14.00 น.

แต่สถานการณ์จะดีขึ้น ตั้งแต่ประมาณวันที่ 18 ธันวาคม 2566 มวลอากาศเย็นลูกใหม่จะปกคลุมประเทศไทยตอนบน ซึ่งจะส่งผลให้การระบายอากาศที่สะสมของฝุ่น PM2.5 ลดลง ดังนั้นในช่วงนี้ คนที่เดินทางในที่สาธารณะจึงต้องรักษาสุขภาพของตนเอง สวมหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง

ขอขอบคุณบทความจาก : ไทยรัฐออนไลน์